

โยนจิ่ม
การเล่นโยนจิ่ม หรือทอยเส้น อุปกรณ์ที่ใช้เล่น เหรียญสตางค์ต่างกันตามจำนวนผู้เล่น
วิธีเล่น
1.ผู้เล่นจะกำหนดเส้นโยนกับหลักชัย ห่าง 1 – 5 เมตร หรือตามที่ต้องการ
2.ผู้เล่นจะโยนเหรียญจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งเหรียญที่โยนใกล้กับเส้นมากที่สุดมีสิทธิ์ทอยเหรียญที่ใกล้เส้นเหรียญที่ 2 ที่ 3 ต่อๆ ไป
3.ผู้เล่นมักจะมีการตกลงกันก่อนว่า ทอยกบ ทอยต่อ หรือทาบ ได้เท่าได โดยเฉพาะการทอยต่อซึ่งจะกำหนด
- ทอยต่อๆ ไปได้ถ้าทอยถูก ถ้าทอยไม่ถูกเหรียญต่อไปไม่มีสิทธิทอยเหรียญที่ 3 หรือเหรียญต่อๆ ไป
- ผู้ชนะจะทอยได้ทุกเหรียญ เหรียญใดทอยไม่ถูกไม่เสีย
- ถ้าเหรียญใกล้มากใช้ทอยๆ ถูกจะเสียเพียงครึ่งหนึ่งหรือไม่ต้องเสีย โดยผู้จัดให้มีการเล่น (เจ้ามือ) จะมีหรือไม่มีก็ได้
ปํญหาติดการพนัน
แม้ว่าการติดการพนันจะเป็นภาวะเรื้อรัง และมักจะกลับเป็นซ้ำได้บ่อยๆ แต่ก็เป็นภาวะที่สามารถรักษาได้ ผู้ติดการพนันมักจะขอรับการรักษาเมื่ออาการเป็นมากจนมีปัญหาการเงินขั้นรุนแรง อย่างไรก็ตามการรักษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ติดการพนันและครอบครัวโดยเฉพาะเรื่องการเงินดีขึ้น สำหรับแนวทางการรักษามักใช้วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (behavioral therapy) การให้คำปรึกษา (counseling) หรือ อาจใช้วิธีการเปลี่ยนแนวคิด (cognitive therapy) และอาจให้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อให้การสนับสนุนและให้กำลังใจในการเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นการพนัน การรักษาด้วยยาอาจมีส่วนช่วยได้บ้าง แม้ว่ายาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการรับรองว่าสามารถใช้ได้ผล แต่การให้การรักษาร่วมกันระหว่างการรักษาโดยไม่ใช้ยาร่วมกับการให้ยามีแนวโน้มที่จะทำให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุดนอกจากนี้ควรรักษาโรคอื่นที่พบร่วมกับการติดการพนัน เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และ การติดสารเสพติดชนิดอื่น เช่น เหล้า บุหรี่ จะช่วยทำให้การติดการพนันดีขึ้นได้
กล่าวโดยสรุปการติดการพนันเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผลเสียที่รุนแรงตามมาไม่ว่าจะเป็นด้านครอบครัว สังคม หรือการเงิน การติดการพนันเป็นความผิดปรกติทางสมองที่สามารถคัดกรองผู้ที่มีความผิดปรกตินี้ได้โดยง่ายจากแบบคัดกรองต่างๆ การติดการพนันเป็นความผิดปรกติที่รักษาได้โดยการใช้พฤติกรรมบำบัด ร่วมกับการให้ยาการพนัน จัดว่าเสพติดด้วยหรือ
ในอดีต พฤติกรรมการติด (Addiction) มักถูกตีความให้หมายถึงการติดสารทางเคมี ที่มีคุณสมบัติทำให้เสพติดได้ เช่น ยาบ้า กัญชา ฝิ่น บุหรี่ เหล้า เท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการให้ความหมายที่กว้างขึ้นว่าพฤติกรรมการติดนี้ มีความหมายรวมถึงสิ่งที่ไม่ใช่สารเคมี เช่น พฤติกรรมการติดการพนัน ติดอินเตอร์เนท ติดเกม เป็นต้น
การพนันมีหลายชนิด ทั้งแบบที่เล่นกันมานานแล้ว เช่น การเล่นไพ่ ซื้อลอตเตอรี่ ซื้อหวย พนันกีฬา เล่นบิงโก พนันกับเครื่องเล่น หรือ แบบที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เช่น การพนันทางอินเตอร์เนต รวมไปจนถึง การเล่นหุ้นในตลาดหุ้นก็จัดเป็นการพนันรูปแบบหนึ่ง ทั้งนี้พบว่าการพนันชนิดใดที่ยิ่งได้รางวัลเร็วหรือเห็นผลประโยชน์เร็ว จะยิ่งทำให้ติดการพนันชนิดนั้นๆได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นติดการพนัน เป็นจากนิสัยหรือจัดว่าป่วย สำหรับสาเหตุของการเสพติดนั้น ปัจจุบันจัดว่าเป็นโรคทางสมอง โดยงานวิจัยได้พบว่า วงจรการทำงานของสมองของผู้ติดการพนันมีลักษณะที่ต่างจากคนทั่วไป เช่น วงจรการควบคุมตนเอง นอกจากนี้สารสื่อประสาทในสมองชนิดหนึ่ง คือ serotonin อาจเสียสมดุลในผู้ที่ติดการพนันโดยพบว่ามีระดับการทำงานลดลงการพนันในเพศชายและเพศหญิงมีความแตกต่างกัน เพศหญิงมีแนวโน้มที่จะเล่นการพนันแบบที่ไม่ต้องใช้ยุทธวิธี มีแนวโน้มที่จะเล่นเพื่อหลีกหนีปัญหาชีวิตมากกว่า มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาการติดเหล้าหรือทำสิ่งผิดกฎหมายน้อยกว่า และมีแนวโน้มที่จะพยายามหาการความช่วยเหลือในการรักษาการติดพนันมากกว่าเพศชาย
การติดการพนันก่อให้เกิดความบกพร่องในชีวิตทั้งทางด้านจิตใจ ร่างกาย สังคม หรืออาชีพอย่างรุนแรง มีผลกระทบต่อครอบครัวทั้งในแง่ความสัมพันธ์และการเงิน คนทั่วไปที่เล่นการพนันอาจเล่นเพราะรู้สึกสนุกกับการที่ได้เสี่ยง หรือลุ้นที่จะชนะพนัน ในขณะที่บางคนเล่นเพื่อทำให้อารมณ์ตนเองดีขึ้น หรือเพื่อหลีกหนีจากปัญหามรสุมในชีวิต จากการศึกษาพบว่ามีนักพนันประมาณ8 – 47% ติดสารเสพติดชนิดอื่น เช่น บุหรี่ เหล้า กัญชา ร่วมด้วย และพบกลุ่มอาการทางจิตเวชได้มากกว่าคนทั่วไป เช่น ปัญหาบุคลิกภาพโดยเฉพาะบุคลิกภาพแบบอันธพาล อาการซึมเศร้า การฆ่าตัวตาย โดยพบการพยายามฆ่าตัวตายได้มากถึง 15 – 20% ของผู้ติดการพนัน มีแบบคัดกรองการติดการพนันแบบง่ายๆ ประกอบด้วยข้อคำถาม 20 ข้อ โดยหากตอบ “ใช่” ตั้งแต่ 7 ข้อขึ้นไปแสดงว่าบุคคลนั้นมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาการเล่นการพนัน ข้อคำถามทั้ง 20 ข้อ มีดังนี้
การเกิดปัญหาติดการพนันในคนหนึ่งๆ สามารถแบ่งได้เป็นสามช่วง ดังนี้
- ระยะแรก-เป็นช่วงที่ผู้พนันชนะรางวัลใหญ่ หรือ ชนะติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้พวกเขามองมันในแง่ดีว่าจะมีการชนะเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้พนันและเริ่มเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้พนันมากขึ้นเรื่อยๆ
- ระยะกลาง-ผู้เล่นพนันจะคุยโม้โอ้อวดเกี่ยวกับการที่ไปชนะการเล่นพนันบ่อยครั้ง และเริ่มที่จะเล่นพนันเองคนเดียว เริ่มคิดเกี่ยวกับการพนันอยู่ตลอดและอาจยืมเงินครอบครัว เพื่อนฝูง หรือทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อให้ได้เงินมาใช้พนัน อาจเริ่มโกหกเกี่ยวกับการเล่นการพนันกับเพื่อน หรือครอบครัว และเริ่มรู้สึกหงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย ไม่สุงสิงกับใคร ชีวิตครอบครัวเริ่มไม่มีความสุข และไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ เริ่มที่จะเล่นพนันเพื่อ “ตามเอาคืน” และอยากกลับมาเล่นอีกครั้งให้เร็วที่สุดเพื่อเอาชนะพนันที่เพิ่งเสียไป
- ระยะสุดท้าย-เป็นช่วงที่เพิ่มการใช้เวลาไปกับการพนันอย่างมาก โดยอาจมีความรู้สึกร่วมไปกับความรู้สึกผิด โทษคนอื่นและทำตัวเหินห่างแปลกแยกออกมาจากครอบครัวและเพื่อนฝูง ในที่สุดอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเพื่อนำเงินมาใช้เป็นทุนในการพนัน เขาอาจมีความรู้สึกสิ้นหวัง อยากตาย โดนตำรวจจับ หย่าร้าง หรือ มีปัญหาการใช้สารเสพติดชนิดอื่น เช่น เหล้า หรืออาจมีปัญหาทางอารมณ์